สาวช็อกบิลค่ามือถือ 4 แสน ยังไร้ข้อสรุปจากค่ายดัง ด้านค่ายดังอ้าง มีหลักฐานชัดว่าใช้จริง


       กสทช. เรียกดีแทคพร้อมลูกค้าสาว เข้าพูดคุยปมเรียกเก็บชำระค่าบริการ 4 แสนกว่าบาท ด้านลูกค้า อ้างไม่เคยเปิดใช้บริการดีแทค ขณะที่ดีแทคยันมีหลักฐานเปิดใช้งาน พร้อมบันทึกการใช้งานที่เกิดขึ้นจริง ล่าสุด ศาลนัดสืบพยาน 5 กันยายนนี้

           จากกรณีที่นายประสงค์ อยู่ไพร บิดาของ น.ส.จงจิตร อยู่ไพร เข้าแจ้งความที่ สภ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ว่า มีหมายศาลจังหวัดมุกดาหาร มาที่บ้านแจ้งว่า ลูกสาวซึ่งเดินทางไปทำงานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์จนถึงปัจจุบัน ได้ค้างชำระค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำนวน 2 เลขหมาย เป็นเงินกว่า 438,000 บาท นอกจากนี้ นายประสงค์ ได้ร้องเรียนมายังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือ 

           วันที่ 2 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้เชิญ น.ส.จงจิตร อยู่ไพร ผู้เสียหาย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยตัวแทนจากดีแทค เข้าพูดคุย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น


  โดย น.ส.จงจิตร ผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่เคยเปิดใช้บริการเบอร์โทรศัพท์ของค่ายดีแทคทั้ง 2 เบอร์ อีกทั้งลายมือชื่อที่ขอเปิดใช้บริการเบอร์โทรศัพท์กับดีแทค ก็ไม่ใช่ลายเซ็นของตนเอง ที่สำคัญช่วงที่มีค่าโทรศัพท์เกิดขึ้น ตนยังอยู่ในเมืองไทย จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะโรมมิ่งการโทรจากฟิลิปปินส์

           นอกจากนี้ ตนยังเคยถูกผู้อื่นแอบอ้างเปิดใช้บริการเบอร์โทรศัพท์กับอีก 2 ค่าย จำนวนอีก 6 หมายเลข คือ จาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส จำนวน 2 เลขหมาย และจากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 4 เลขหมาย ซึ่งทั้ง 2 บริษัท ก็ได้ยุติเรื่อง ไม่ติดใจดำเนินคดีกับตน เพราะตรวจสอบแล้วว่ามีการปลอมจริง 

           ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยืนยัน น.ส.จงจิตร ผู้เสียหาย ไม่ได้เปิดใช้บริการเบอร์โทรดังกล่าว  และส่วนตัวยังติดใจทั้ง 2 เบอร์ ที่เปิดใช้บริการกับดีแทค ซึ่งระบุว่า มียอดเงินรวม 5,200 บาท แต่เหตุใดจึงมีค่าบริการสูงกว่า 400,000 บาท  จึงอยากให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เนื่องจากผู้เสียหายทำงานอยู่ในต่างประเทศ หากเดินทางมาเข้าสู่กระบวนการหลายครั้งอาจกระทบต่อการทำงาน จึงขอยื่นข้อเสนอให้พิสูจน์ลายมือชื่อที่ลงนามไว้ในการเปิดใช้บริการ ซึ่งหากไม่ใช่ลายมือชื่อจริงย่อมจะไม่ใช่ความรับผิดชอบของผู้เสียหาย ผู้เสียหายยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยินดีที่พิสูจน์ หากพิสูจน์แล้วพบว่าเป็นลายมือชื่อ น.ส.จงจิตร จริง น.ส.จงจิตร ยินดีรับผิดชอบค่าบริการที่เกิดขึ้น แต่หากไม่ผิด ดีแทคจะรับผิดชอบอย่างไร 

           นายอัจฉริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่ทางดีแทคอ้างว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของ น.ส.จงจิตร ล่าสุด พบว่า เบอร์ดังกล่าวมีชาวเขมรนำไปใช้ที่ จ.ปทุมธานี เป็นเวลาปีกว่าแล้ว

           ฝ่ายตัวแทนจาก ดีแทค ยืนยันมีหลักฐานว่า น.ส.จงจิตร เปิดใช้เบอร์จริง และมีค่าใช้จ่ายจากการใช้งานบริการโรมมิ่งในฟิลิปปินส์ติดต่อกลับมาประเทศ ไทย เมื่อตรวจชั้นแรกพบว่า มีค่าบริการสูงเกิน 40,000 บาท  จึงแจ้งเตือนไปยังลูกค้าให้ทราบ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ แต่ลูกค้ายืนยันขอใช้บริการต่อไป ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าหลักฐานการโต้ตอบทางโทรศัพท์ เป็น น.ส.จงจิตร หรือไม่ ดังนั้น กระบวนการในชั้นศาลจะพิสูจน์ความจริงได้  

           ทั้งนี้ ดีแทค ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา และศาลกำหนดนัดวันสืบพยาน 5 กันยายนนี้


เครดิตข่าว kapook





#สยามโป๊กเกอร์ *โปรโมรชั่นคืนยอดเทิร์นโอเวอร์*
#โป๊กเกอร์ คืนยอดเทิร์นสูงสุด 3,000 บาท
ซีมี่/โดมิโน่/จับซา คืนคืนยอดเทิร์นสูงสุด 2,500 บาท
เคลียร์ยอดทุกวันพฤหับดี ถอนได้!! ไม่ต้องทำเทิร์น!!
สอบถามเพิ่มเติมที่ siampoker.com
Facebook : สยามโป๊กเกอร์ เกมส์
Fanpage :  Siampoker
คลิกที่นี้ >> http://landingsplash.xyz/siampoker/
Line: siampoker หรือ
LiveChat..แชท ตลอด 24 ชม.


Previous
Next Post »